วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Review Sulwhasoo : Snowise EX Whitening Water.

             Review Sulwhasoo  Snowise EX Whitening Water





สวัสดีครับทุกคน กลับมาพบกันอีกแล้วนะครับ วันนี้พีทก็ไม่ได้มามือเปล่า แต่พีทมากับ Whitening อันโด่งดังจากเกาหลี นั่นก็คือ  Sulwhasoo Snowise EX Whitening Water เป็นน้ำตบที่อยู่ใน line Whitening ของทาง Sulwhasoo เอง มาดูกันเลยดีกว่าว่าเจ้าตัวนี้มันมีดียังไงงง


Sulwhasoo Snowise EX Whitening Water เป็นโลชั่นน้ำที่มีส่วนผสมของ Snowise Tri-White Complex ซึ่งจะช่วยให้มีผิวที่ชุ่มชื่น ไม่แห้งตึง ช่วยให้ผิวขาวขึ้นจนสังเกตได้ โดยพีททดสอบโดยสังเกตจากรอยสิวที่หายแล้วแต่ทิ้งรอยดำเอาไว้ เมื่อใช้ไปได้สักสองอาทิตย์ก็จะเห็นความเปลี่ยนแปลงได้อย่าชัดเจนว่ารอยดำดูจางลง และหลังจากนั้นก็จะค่อยๆจางหายไปจนไม่เหลือรอยดำอยู่เลย




เนื้อของ Sulwhasoo Snowise EX Whitening Water จะเป็นน้ำใสๆ มีกลิทเตอร์เล็กมากๆอยู่แต่ทาไปบนหน้าแล้วไม่ได้เกิดผลอะไร ไม่ทำให้หน้าวาวหรือเกาะหน้าแต่อย่างได โลชั่นน้ำตัวนี้จะมีความหนืดนิดหน่อยไม่ใสแบบน้ำเปล่า แต่ก็ไม่ได้หนัก เมื่อทาลงบนผิวก็จะซึมหายไปอย่างรวดเร็ว Sulwhasoo Snowise EX Whitening Water จะมีกลิ่นที่ผ่อนคลายแบบธรรมชาติ โดยเป็นความชอบส่วนตัว แต่ก็ต้องแลกมาด้วยการผสมน้ำหอม และถ้าคนไม่ชอบก็จะไม่ชอบเลยก็เป็นได้ (อยากให้ไปทดลองก่อน)


ส่วนตัวที่พีทลองใช้แล้วสังเกตุได้เลยว่านหน้ากระจ่างใสขึ้น รอยดำลดลง หน้าไม่แห้งตึง ไม่มีอาการแพ้ หรือ เป็นสิว และ ไม่มีอาการอุดตันเลยครับ

สุดท้ายนี้เมื่อใช้แล้วจะมีอาการแพ้หรือไม่พีทก็ไม่สามารถบอกได้ จึงแนะนำให้ไปลองได้ที่เคาเตอร์ของ Sulwhasoo ตามห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั้วไป สำหรับวันนี้พีทก็ขอจบการรีวิวไว้เพียงเท่านี้ แล้วพบกันให้ สวัสดีครับ









พบเภสัช กับ พีท รีวิว


                                       พบเภสัช กับ พีท รีวิว               



                 พบเภสัช กับ พีท รีวิว วันนี้จะพาไปพบกับ พี่น้ำ เภสัชกรประจำร้าน ดี แคร์ ที่นี่เป็นทั้งร้านยา และ คลินิกเวชกรรม เสริมความงาม พีท ได้ถามพี่น้ำเกี่ยวกับการล้างหน้า การทำครีม และเรื่องสิว ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องพื้นฐานของการดูแลผิวหน้า รายระเอียดต่างๆจะอยู่ในคลิป...หวังว่าเพื่อนๆจะได้รับความรู้และความสนุกการดูคลิปกันนะครับ งั้นไปดูกันเลยยย



*ไม่สามารถอัพโหลดวีดีโอได้โดยตรว จึงอัพโหลดไว้ที่ Youtube*

*ขออภัยในความไม่สะดวก*

Review EAU THERMALE Avène : Crème pour peaux intolérantes Apaisante.

Review EAU THERMALE Avène : Crème pour peaux intolérantes Apaisante.




สวัสดีคนับทุกคน วันนี้พีท ก็จะมารีวิว ครีมที่มีส่วนผสมของน้ำแร่ จากฝรั่งเศส ถ้าบอกไปหลายคนคงต้องร้องอ๋อ อย่างแน่เลย นั่นก็คือ แบรนด์ EAU THERMALE Avène หรือ Avène (อาเวน) นั่นเอง ดังที่ได้กล่าวไว้ข้างต้นไว้แล้วว่าแบรนด์นี้มีส่วนผสมของน้ำแร่อาเวนเก่าแก่ ที่มีชื่อเสียงด้านการรักษาโรคผิวหนังกว่า 270 ปี 


Avène Crème pour peaux intolérantes Apaisante. เป็นครีมที่มาในบรรจุภัณฑ์แบบหลอด เป็นครีมที่เน้นการบำรุงผิวที่บอบบาง สำหรับผิวแพ้ง่าย มีส่วนประกอบที่เพียงพอ เพราะครีมที่มีส่วนประกอบเยอะเกินไปอาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ 



Avène Crème pour peaux intolérantes Apaisante. มีจุดเด่นหลายประการก็คือ เป็นครีมที่มีส่วนประกอบน้อย แต่เพียงพอในการบำรุง มีส่วนผสมของน้ำแร่อาเวนอยู่ในปริมาณที่มาก คัดสรรเฉพาะส่วนประกอบที่ปลอดภัยที่สุด อ่อนโยนที่สุด และช่วยให้ผิวแข็งแรงได้มากที่สุด ให้ผิวชุ่มชื่น ลดการแพ้ อักเสบของผิว การลอกเป็นขุยๆ จากการที่พีทใช้แล้วรู้ได้ถึงการบำรุงที่ยาวนาน โดยพีทจะใช้เหมือนเป็นมาสก์ในการพอกหน้าก่อนนอนมากกว่า เนื่องจากเนื่อครีมที่มีลักษณะกึ่งๆเจล เมื่อทาแล้วก็จะซึมลงผิวได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็จะทิ้งเหมือเจลๆไว้บนผิวหน้า จึงสามารถใช้เป็นมาสก์ได้ดีอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียวหล่ะ

วิธีใช้ บีบครีมลงบนฝ่ามือประมานเหรียญห้าบาท ถูมือให้ครีมทั่วฝ่ามือ แล้วทาบลงบนใบหน้า และลำคอ ให้ทั่ว ทาเช้าและเย็น (แต่ส่วนตัวจะใช้แค่ก่อนนอนเพราะเป็นคนหน้ามัน)

สามารหามาลองใช้กันได้ที่ร้านวัตสันทั่วไปเลยครับ สำหรับวันนี้พีทก็ขอจบการรีวิวเจ้า Avène Crème pour peaux intolérantes Apaisante. ไว้เท่านี้ก่อน สวัสดีครับ




วันอาทิตย์ที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

HOMME TIPS : 4 เคล็ดลับ นอนดึกแค่ไหนหน้าก็ไม่โทรม

4 เคล็ดลับ นอนดึกแค่ไหนหน้าก็ไม่โทรม





สวัสดีครับ กลับมาพบกับ พีท รีวิวกันอีกแล้วนะครับ วันนี้ พีท ก็มีเคล็ดลับดีๆ สำหรับผู้ชายที่ชอบนอนดึกแล้วเป็นกังลกับหน้าที่เริ่มโทรมขึ้นทุกวันๆ เราก็ไม่ครรที่จะละเลยตรงนี้ พีทก็เลยนำ 4 วิธีการไม่ให้หน้าโทรมไม่ว่าจะนอนด฿กแค่ไหน ไปอ่านกันเลยยย




1. ‘น้ำ’ ต้นกำเนิดของความชุ่มชื่น
เหตุผลเบสิกที่ทุกคนรู้ว่าการขาดน้ำเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ใบหน้าคุณโทรม โดยเฉพาะถ้าคืนก่อนคุณดื่มอย่างเต็มที่เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้ผิวของคุณแห้งอย่างรวดเร็ว ดังนั้นสิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกเมื่อคุณกระเด้งตัวตื่นขึ้นมาในตอนเช้าคือดื่มน้ำให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ โดยเราแนะนำว่าก่อนคุณก้าวขาออกจากบ้านพยายามดื่มน้ำให้ได้ 500-600 ซีซี แล้วพยายามให้แก้วน้ำบนโต๊ะทำงานของคุณมีน้ำเพื่อให้คุณจิบได้ตลอดเวลา และถ้าเกิดคืนนั้นคุณต้องไปปาร์ตี้อีกรอบล่ะก็ ก่อนที่จะออกไปเมามันเราก็แนะนำให้คุณดื่มน้ำไปก่อนเลยสองถึงสามแก้ว


2. ครีม ‘สครับ’ ช่วยกระตุ้นการไหลเวียน
สภาพผิวจากการนอนดึกมากๆ ไม่ต่างอะไรจาก ซอมบี้ในวอล์กกิ้งเดด การใช้สครับเพิ่มเข้าไปในขั้นตอนของการล้างหน้านั้นควาบหยาบของเนื้อครีมจะไปกระตุ้นเซลล์ผิวให้ตื่นตัว พร้อมกับช่วยทำให้การไหลเวียนของโลหิตบริเวณใบหน้านั้นดีขึ้นเช่นเดียวกับผู้ชายที่นอนมาเต็มอิ่ม

3. มอยส์เจอไรเซอร์ที่ดีคือคำคอบ
แน่นอนน้ำเปล่าจะช่วยให้เซลล์ผิวคุณกลับมาชุ่มชื่นตามธรรมชาติ แต่ธรรมชาติมักใช้เวลาเยียวยานานหลายชั่วโมง ก่อนที่จะถึงเวลานั้นผลิตภัณฑ์ มอยส์เจอไรเซอร์คือทางออกที่ดีที่สุด แต่เราขอให้คุณรอบคอบเพราะ ส่วนประกอบที่ดีในมอยส์เจอไรเซอร์ก็สำคัญ พยายามเลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสสของน้ำมันเปบเปอร์มินต์ หรือ สารสกัดจากโสม จะเป็นสารประกอบที่ช่วยวคุณได้มากที่สุด


4. รอบดวงตาต้องการตัวช่วย
คล้ายกับผู้หญิงนั่นแหละ พอนอนดึกตื่นเช้า ขอบตาคุณก็คล้ำ ถุงใต้ตาก็เด่นชัด มองหาเจลทารอบดวงตาที่มีสารสกัดของวิตามินซี สิจะช่วยลดขอบตาคล้ำๆของคุณลงได้ แต่เราจะบอกให้ว่าถ้าจะให้ได้ผลดีที่สุดคุณต้องเอาเจลนั้นไปแช่เย็นเสียก่อนนะ

มารู้จักค่า SPF กันดีกว่า

SPF ย่อมาจากอะไร

    SPF คืออะไร เอสพีเอฟย่อมาจาก Sun Protection Factor ถ้าแปลเป็นไทยก็คือ ปัจจัยการป้องกันแสงแดด ซึ่งในหลักสากลนั้นจะใส่เป็นตัวเลขตั้งแต่ ขึ้นไป อย่างที่เราเห็นกันในท้องตลาดก็จะมีตั้งแต่ต่ำกว่า 10 ขึ้นไปจนถึง 100 กว่าเลยทีเดียวโดยตัวเลขที่สูงนั้นจะบ่งบอกถึงการประสิทธิภาพการทำงานและความยาวนานในการ ป้องกันแดดของผลิตภัณฑ์นั้นๆ


SPF ปกป้องผิวจากอะไร



   สพีเอฟปกป้องผิวของคุณเฉพาะแค่ UVB เท่านั้น (เน้นนะครับ UVB เท่านั้น) ซึ่ง UVB ทำอันตรายกับผิวภายนอกของเท่านั้น ซึ่ง UVB จะทำให้ผิวแทนลง (เพราะว่าเม็ดสีเมลานินไปก่อตัวในบริเวณที่โดนแดด ทำการต่อสู้กับอันตรายของรังสี UVB) ถ้าได้รับ UVB มากๆจะทำให้ผิวของเรานั้นไหม้ได้ (คนที่อยู่ในเมืองไทย น้อยคนคงได้สัมผัสกับอาการผิวไหม้ เพราะส่วนใหญ่จะเกิดกับผู้ที่ไปอาบแดดเป็นเวลานานๆโดยไม่ใช้ครีมกันแดด)

SPF ทำงานอย่างไร

รงนี้จะขอยกตัวอย่างให้เข้าใจกันง่ายๆนะครับ
นาย อยู่กลางแดดโดยไม่ทาครีมอะไรเลย 10 นาที ผิวจะไหม้ แดง เกิดอาการคันและแสบ
นาย ใช้ครีมกันแดดที่มีเอสพีเอฟ 50 = นาย จะอยู่กลางแดดได้โดยผิวจะไม่ไหม้ ได้เป็นเวลา 500 นาที
หมายความว่า 10×50 = 500 นั่นเอง
  • อีกตัวอย่างเผื่อใคร งง
นาย อยู่กลางแดดโดยไม่ทาครีมอะไรเลย นาที ผิวจะไหม้ แดง เกิดอาการคันและแสบ
นาย ใช้ครีมกันแดดที่มีเอสพีเอฟ 50 = นาย จะอยู่กลางแดดได้โดยผิวจะไม่ไหม้ ได้เป็นเวลา 250 นาที
หมายความว่า 5×50 = 250 นั่นเอง

    ซึ่ง บางผลิตภัณฑ์นั้นเวลาโฆษณามักจะใช้คำชักชวนจูงใจว่ากันได้มากกว่าถึง 50 เท่า ซึ่งผู้ชมผู้อ่านโฆษณามักจะถูกจูงจมูกว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆดีมาก กันแดดได้ดีกว่าตั้ง 50 เท่าแหนะ ซึ่งเอาเข้าจริงๆ มันก็ไม่ได้ต่างไปจากครีมที่มีค่าเอสพีเอฟ 30 40 เท่าไหร่นัก (คุณอ่านต่อไปจะรู้ว่า SPF 30 กับ 50 นั้น ประสิทธิภาพในการป้องกันต่างกันแต่นิ๊ดดดดเดียวจริงๆ) และป้องกันได้นานกว่านิดหน่อยเท่านั้น แต่ส่วนมากจะตามมาซึ่งราคาที่สูงขึ้น (ซึ่งครีมกันแดดนั้นยังไงก็ต้อง ทาซ้ำทุกๆ 2-3 ชั่วโมงอยู่แล้วเพื่อคงประสิทธิภาพในการป้องกัน แล้วมันจะต่างอะไรหากป้องกันได้ 500 นาที 1000 นาที . . . จริงไหมครับ) 






Credit 
http://re-bornmask.com



รีวิว Skin Care : SK-II Facial Treatment Essence

รีวิว SK-II Facial Treatment Essent.


           สวัสดีครับเพื่อนชาว blog วันนี้พีทรีวิวก็กลับมากับ Skin Care ระดับตำนาน เรียกได้ว่าเกื่อบทุกคนจะต้องเคยได้ลองใช้และมีติดโต๊ะไว้อย่างแน่นอน กับ SK-II Facial Treatment Essence น้ำตบตัวเทพระดับตำนานที่สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน 


ส่วนประกอบสำคัญนั้นจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลย นั่นก็คือ Pitera ซึ่งทางแบรนด์ก็ได้บอกว่าตัว Pitera จะช่วยให้ผิวของผู้ที่ใช้เป็นประจำต่อเนื่องมีความอ่อนเยาว์ลงโดยอ้างอิงจากงานวิจัยหลายตัวโดยทำการวิจัยทั้งในประเทศญี่ปุ่น และ ประเทศเกาหลี และจะเห็นได้จากโฆษณาที่อ้างถึงคนแก่ที่ทำงานในโรงบ่มเหล้าที่ใช้มือนวดข้าวเป็นประจำ ซึ่งมือของเค้าก็ยังดูอ่อนเยาว์เหมือนมือของคนวัยสาวนั่นเอง

ซึ่งการที่มี Pitera เข้มข้นนั้นเองจะทำให้เห็นผลได้อย่างชัดเจน แต่ถ้าหากแพ้ ก็จะแพ้มากเลยเช่นกันจึงแนะนำผู้ที่อยากใช้ให้ทดสอบอาการแพ้ก่อน สามารถไปทดสอบได้ที่เคาเตอร์ของ SK-II ทุกสาขาเลยครับ



ลักษณะเนื้อผลิตภัณฑ์จะเป็นน้ำใสๆ เหมือนกับน้ำเปล่าอย่างไงอย่างั้นเลย แต่จะต่างตรงที่จะมีกลิ่น คาดว่าน่าจะเป็นกลิ่นที่เกิดจากการหมักบ่มจากข้าว หรือกลิ่นของ Pitera ก็เป็นไปได้

วิธีการใช้ : การใช้เจ้าตัว SK-II Facial Treatment Essence ก็ไม่ยากเลย เพียงแค่หยด SK-II Facial Treatment Essence ลงบนฝ่ามือปริมาณเท่าเหรียญ 10 บาท นำสองมือถูกันเพื่อกระจายผลิตภัณฑ์ให้ทั่วฝ่ามือ และใช้ฝ่ามือประคบให้ทั่วใบหน้า ใช้เป็นประจำทุกวัน ส่วนตัวพีทจะใช้ควบคู่กับ SK-II Facial Clear lotion เช็ดทำความสะอาดหน้าก่อนใช้ Essence ลงตามไป 

ผลลัพธ์ที่ได้ : จากที่พีทได้ลองใช้เป็นประจำมาอย่างต่อเนื่อง 1 เดือน ก็พบว่าผิวดูกระชับขึ้น ลูขุมขนดูเล็กลง กระจ่างใสขึ้นเล็กน้อย รวมถึงรอยแดงตรงแถวปีกจมูกก็ลดลงอย่างเห็นได้ชัด และถ้าเทียบกับก่อนใช้ก็จะเห็นได้เลยว่าผิวหน้าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นอย่างชัดเจนจนสามารถสังเกตุได้

โดยรวมถือว่า SK-II Facial Treatment Essence ถือได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่เป็นพื้นฐานของการเริ่มต้นการบำรุงผิวเลยก็ว่าได้ สำหรับตัวพีทเองถือว่าเป็น the must เลยหล่ะสำหรับตัวนี้ ถ้าหากถามถึงอาการแพ้ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละตัวบุคคลซึ่งพีทก็ไม่สามารถบอกได้ จึงแนะนำให้ไปลองได้ด้วยตัวเองครับ สำหรับวันนี้ก็ขอจบการรีวิวเจ้า SK-II Facial Treatment Essence ไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน แล้วคราวหน้าพีทจะมีรีวิวหรือสาระดีๆอะไรบ้าง ต้องรอติดตามนะครับ สวัสดีครับ... 


10 เคล็ดลับ ผิวเปล่งปลั่ง ไร้ริ้วรอยก่อนวัย

                      10 เคล็ดลับ ผิวเปล่งปลั่ง ไร้ริ้วรอยก่อนวัย






วันนี้เรามีเคล็ดลับเพื่อผิวเปล่งปลั่ง กระจ่างใส ไม่มีริ้วรอย ซึ่งเป็นวิธีง่ายที่ใครๆ ก็ทำได้ค่ะ เพียงใส่ใจและให้เวลากับ
ผิวทุกๆ วันผิวสวยๆก็จะอยู่กับเราไปอีกนาน

• การล้างหน้าบ่อยเกิน 2 ครั้งต่อวัน จะทำให้เกิดสิวและ
  ทำให้น้ำมันตามธรรมชาติของผิวถูกทำลายผิวจึงแห้งได้




• ทาครีมกันแดดก่อนออกแดดราว 15 นาที เพื่อให้ครีมกันแดดยึดติดกับผิวได้ดีกว่า และถ้าอยู่กลางแดดเป็นเวลานานๆ ก็ควรทาครีมกันแดด
  ซ้ำทุก 2 ชั่วโมงเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด สาเหตุของผิวหมองคล้ำและริ้วรอย

• นวดผิวหน้า โดยวางฝ่ามือที่ข้างจมูกทั้ง 2 ด้าน นวดคล้ายการยกผิวขึ้นไปจนถึงขมับ เมื่อถึงขมับแล้ว ใช้ฝ่ามือลงน้ำหนักกดที่ผิวหน้า 3 ครั้ง
  จะช่วยทำให้ผิวหน้ากระชับขึ้น

• บำรุงผิวหน้าด้วย
ไวท์เทนนิ่งครีมเป็นประจำ เพื่อลดเลือนจุดด่างดำและช่วยปรับผิวให้กระจ่างใส ลดเลือนความหมองคล้ำ

• ทำความสะอาดใบหน้าอย่างหมดจดเสมอ โดยเฉพาะก่อนเข้านอน เพื่อป้องกันไม่ให้รูขุมขนอุดตันและไม่เกิดริ้วรอยก่อนวัย

• ทานปลาให้มากขึ้น เพราะนอกจากจะมีโปรตีนที่ดีแล้วยังอุดมไปด้วยวิตามินที่ดีต่อผิว มีส่วนประกอบของกรดไขมันโอเมก้า-3 ซึ่งทำให้ผิวหนัง
  ชุ่มชื้น ยืดหยุ่น และดูอ่อนเยาว์ รวมถึงช่วยลดเลือนริ้วรอยด้วย



• สครับขัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำออก เพื่อผลัดเซลล์ผิวใหม่ให้เร็วขึ้น เป็นอีกหนึ่งวิธีทำให้หน้าใสและเนียนนุ่ม เลือกสครับที่มีเม็ดบีดส์ขนาดเล็ก
  ที่เรียกว่าไมโครบีดส์เพราะอ่อนโยนและไม่ระคายเคืองผิว

• อายครีมขาดไม่ได้ เพราะสัญญาณแห่งวัยมักจะเกิดขึ้นแถวๆ ดวงตาเป็นที่แรก ควรทาอย่างเบามือเพราะผิวรอบดวงตานั้นค่อนข้างบอบบาง

• ทานน้ำตาลให้น้อยลง เพราะน้ำตาลจะเข้าไปเกาะเส้นใยโปรตีนในผิว ส่งผลให้ผิวขาดความยืดหยุ่นได้

• นำผ้าขนหนูสะอาดๆชุบนมแบบไม่พร่องมันเนยเย็นๆ บิดพอหมาดคลุมบนใบหน้าประมาณ20 นาที แล้วล้างออกด้วยน้ำอุ่นนมเย็นจะช่วยต้าน
การเกิดรอยแดงในขณะที่กรดแลกติกในนมจะช่วยขจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วพร้อมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวนุ่มขึ้น

วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Review CHANEL : Le Blanc Whitening Concentrate Continuous Action TXC™

สวัสดีครับ วันนี้ Skin Care ที่ผมจะพาไปรีวิว เป็นแบรนด์ที่ใครหลายคนต้องรู้จักอย่างแน่นอน นั่นก็คือ Chanel ซึ่งในวันนี้ตัวที่ผมหยิบมารีวิวจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก ในส่วนของ Chanel Le Blanc Whitening Concentrate Continuous Action TXC™ซึ่งตัวนี้เป็นตัวเอกของ line Whitening เลยก็ว่าได้



เนื้อสัมผัสของเซรั่มนั้นเกลี่ยได้ง่าย ซึมลงผิวรวดเร็ว ด้วยส่วนผสมของซิลิโคนชนิดแห้งไว ไม่ทิ้งความมันไว้บนผิว แต่จะมีประกายวาวๆเล็กน้อย  มีส่วนผสมของน้ำหอมซึ่งอาจก่อให้เกิดการละคายเคืองได้ง่าย




จากการใช้ส่วนตัวผลที่ได้คือ โทนสีผิวดูสว่างขึ้น รอยดำจากสิวจางลงอย่างชัดเจนหลังจากใช้แล้ว 4 สัปดาห์โทนสีแดงบนผิวหน้าหายไป ผิวหน้าชุ่มชื้นขึ้น และไม่เกิดอาการแพ้แต่อย่างได นี่ก็เป็นรีวิวของCHANEL : Le Blanc Whitening Concentrate Continuous Action TXC™ ถ้าเพื่อนๆสนใจก็ลองไปที่เคาเตอร์ Chanel ได้นะครับ สำหรับวันนี้ก็ขอจบการรีวิวไว่เพียงเท่านี้ สวัสดีครับ

Ingredients : Aqua (Water), Alcohol, Dipropylene Glycol, Glycerin, Butylene Glycol, Methyl Gluceth-20, PEG-32, PPG-6 Decyltetradeceth-30, Phenoxyethanol, Carbomer, Dipotassium Glycyrrhizate, Sodium Citrate, Tetrasodium EDTA, Parfum (Fragrance), Sodium Acetylated Hyaluronate, Polyquaternium-51, Glycyrrhiza Glabra (Licorice) Root Extract, Methylparaben, Hydrolyzed Conchiolin Protein, Propylparaben, Ethylparaben. 





วันพฤหัสบดีที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2559

แนะนำBlog และ ผู้ทำBlog

ABOUT  BLOG

Blog นี้สร้างขึ้นเพื่อจะรีวิว skin care ตั้งแต่ระดับ street to hi-end เนื่องจากในปัจจุบันคนหันมาสนใจดูแลตนเองมากขึ้นทั้งหญิงและชาย อีกทั้งผลิตภัณฑ์บำรุงผิวมีหลากหลายในท้องตลาดผมจึงทำ blog นี้ขึ้นมาเพื่อประกอบการตัดสินใจให้กับเพื่อนๆที่สนใจอยากลองใช้ผลิตภัณฑ์แต่ก็ยังลังเลอยู่ ให้ได้ข้อมูลที่มากขึ้นและตัดสินใจก่อนซื้อ จะได้ไม่เสียใจทีหลังงง

ABOUT ME

สวัสดีครับเพื่อนๆชาว blog ทุกคน ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกันหน่อย ผมชื่อ พีช เรียนอยู่คณะนิเทศศาสตร์ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยรังสิต อายุ 21 เข้าเรื่องกันเลยนะครับ ก่อนอื่นขอบอกก่อนเลยว่าเราเป็นคนผิวมัน แพ้ง่าย และเป็นที่ชอบนอนดึก จึงพยายามหา Skin Care ที่เหมาะกะผิวเราและได้ลองใช้แล้วได้ผลดี ข้อมูลที่ได้ส่วนใหญ่มาจากการเข้าไปถาม BA ที่เคาท์เตอร์ และเหล่า Bloger ชื่อดังแล้วซื้อผลิตภัณฑ์มาลองใช้เองจริง ลองมาเยอะเจ็บมาเยอะ แต่ก็มีที่เลิฟอยู่ไม่กี่ตัว เมื่อเราพร้อมแล้วก็ไปลุยกันเลยย


มาเริ่มที่ตัวแรกกันเลยดีกว่าครับ เป็นแบรนด์เก่าแก่ของทางเกาหลี นั้นก็คือ Sulwhasoo นั่นเอง ตัวนี้จะ Serum ที่อยู่ในไลน์ของ Whitening ชื่อเต็มๆก็คือ Sulwhasoo Sniwise EX Brightening Serum จะพูดว่า Serum เป็นพระเอกของไลน์ Whitening ก็คงไม่ผิด เพราะส่วนผสมที่ใส่มาอย่างจัดเต็มที่เรียกได้ว่าเมื่อใช้แล้วสามารถคาดหวังผลได้จริง (50ml / 6,500บาท)


วิธีใช้ : พีชจะใช้หลังจากที่ใช้ตัว Sulwhasoo Snowise EX Whitening Water ประมาณ 3 ปั๊มลงบนฝ่ามือวนให้ทั่ว ก่อนทาพีชชอบเอามาป้องที่จมูกเพื่อสูดกลิ่นเข้าไปทำให้รู้สึกผ่อนคลาย ใช้มือแท็บให้ที่ใบหน้า

ผลลัพธ์ : เมื่อใช้เป็นประจำอย่าต่อเนื่องประมาน 1 เดือนขึ้นไปจะสังเกตุได้ว่าสีผิวดูสว่างกระจ่างใสขึ้น รอยแดงตรงปีกจมูกจางลง จุดด่างดำจางลงอย่าเห็นได้ชัด หน้าไม่ค่อยโทรม

Ingredients : WATER, BUTYLENE GLYCOL, NIACINAMIDE, GLYCERIN, DIMETHICONE, SQUALANE, BROUSSONETIA KAZINOKI ROOT EXTRACT, GLYCYRRHIZA URALENSIS (LICORICE) ROOT EXTRACT, OPHIOPOGON JAPONICUS ROOT EXTRACT, OLDENLANDIA DIFFUSA EXTRACT, HYDROLYZED GINSENG SAPONINS (HYDROLYZED WHITE GINSENG SAPONINS), PANAX GINSENG ROOT EXTRACT, PAEONIA ALBIFLORA ROOT EXTRACT, NELUMBO NUCIFERA SEED EXTRACT, POLYGONATUM OFFICINALE RHIZOME/ROOT EXTRACT, LILIUM TIGRINUM FLOWER/LEAF/STEM EXTRACT, REHMANNIA GLUTINOSA ROOT EXTRACT, HONEY, GLYCYRRHIZA GLABRA (LICORICE) ROOT EXTRACT, GINKGO BILOBA LEAF EXTRACT, TRIETHYLHEXANOIN, ACETYL GLUCOSAMINE, 1,2-HEXANEDIOL, PROPANEDIOL, HYDROGENATED LECITHIN, METHOXY PEG-114/POLYEPSILON CAPROLACTONE, CHOLESTEROL, C14-12 ALCOHOLS, INULIN LAURYL CARBAMATE, VINYL DIMETHICONE/METHICONE SILSESQUIOXANE CROSSPOLYMER, HYDROXYETHYL ACRYLATES/SODIUM ACRYLOYLDIMETHYL TAURATE COPOLYMER, HYDROGENATED VEGETABLE OIL, POLYMETHYL METHACRYLATE, CAPRYLIC/CAPRIC TRIGLYCERIED, C12-20 ALKYL GLUCOSIDE, BEHENYL ALCOHOL, XANTHAN GUM, POTASSIUM CARBOMER, POLYGLYCERYL-10 PENTASTEARATE, THYMOL TRIMETHOXYCINNAMATE, CETEARYL ALCOHOL, ALCOHOL, ETHYLHEXYLGLYCEIN, SODIUM STR+EAROYL LACTYLATE, CETEARYL GLUCOSIDE, CAPRYLYL GLYCOL, SODIUM METHYL STEAROYL TAURATE, GLYCERYL CAPRYLATE, DISODIUM EDTA, PHENOXYETHANOL, FRAGRANCE.